ดิไอคอนกรุ๊ป เคลื่อนไหว ย้ำบอสทุกคนไม่เคยหนี ขอสู้จนลมหายใจ

ดิไอคอนกรุ๊ป ออกจดหมายเปิดใจ ย้ำไม่ได้ฉ้อโกง และไม่ใช่ แชร์ลูกโซ่ ลั่น ขอสู้จนลมหายใจสุดท้าย เพื่อสมาชิก The iCon จากกรณี ดิไอคอน ซึ่งมี บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล และบอสอีกหลายราย ตกเป็นผู้ต้องหา ส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจขายตรงของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ด้วยนั้น

 

ดิไอคอนกรุ๊ป เคลื่อนไหว ย้ำบอสทุกคนไม่เคยหนี

 

ดิไอคอนกรุ๊ป

วันที่ 5 ธันวาคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก The iCon Group โพสต์ข้อความร่ายยาวถึงพี่น้องครอบครัว The iCon ยืนยันเจตนาการทำธุรกิจอย่างถูกต้องมาตลอด 7 ปี ย้ำว่าไม่เคยมีความคิดเรื่องฉ้อโกง หรือพัวพันกับ แชร์ลูกโซ่ ตามที่ถูกกล่าวหา แม้ปัจจุบันจะยังอยู่ในคุก ก็ขอสู้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อพิสูจน์ความจริงเพื่อสมาชิกและพนักงานครอบครัว The iCon Group ย้ำว่าบอสทุกคนจะไม่หนีไปไหนและขอสู้จนลมหายใจสุดท้าย

โพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ในวันนี้ครอบครัวของเรากำลังเผชิญกับปัญหาหนัก หนักที่สุดนับตั้งแต่วันที่ผมได้ก่อตั้งครอบครัวนี้ขึ้นมา ตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ผมก่อตั้งบริษัท The iCon Group ผมมีความตั้งใจจริงที่จะทำธุรกิจอย่างถูกต้อง และเปิดเผยต่อสาธารณะ ผมมีปณิธานความมุ่งมั่นที่ต้องการจะสร้างธุรกิจที่สามารถสร้างอาชีพรายได้ให้กับพี่น้องคนไทย ผมมีความปรารถนาที่จะผลิตสินค้าที่ดีมีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ให้แก่ผู้บริโภคทุกคน

บริษัท The iCon Group มีความตั้งใจที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่สนใจในการขายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ตลอด 7 ปี เรามุ่งมั่นพัฒนาระบบหลังบ้าน เว็บไซต์ ระบบการจัดจําหน่าย ระบบคลังสินค้า และการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค จนไปถึงระบบการคิดคำนวณกำไรให้แก่ผู้จัดจำหน่ายทุกอย่างเบ็ดเสร็จครบครัน เพื่อให้ทั้งผู้บริโภคและสมาชิกสามารถซื้อสินค้าและทำธุรกิจได้อย่างง่ายดาย และให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

 

 

ผมดีใจที่มีผู้บริโภคมากมายที่มีโอกาสได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเรา ผมดีใจที่ได้เปิดโอกาสให้อาชีพขายของออนไลน์ที่ผมรักและศรัทธาได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขา จนปัจจุบันนี้มีผู้ที่เป็นผู้บริโภคและสมาชิกกว่าหลายแสนคน ผมขอโอกาสนี้ขอบคุณทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริโภค สมาชิก พนักงานน้อง ๆ ทุกคนในออฟฟิศ ลูกค้าทุกคนที่เคยซื้อ หรือเพียงแค่เคยเห็นแต่ยังไม่เคยซื้อก็ตาม ผมขอขอบคุณจากใจจริง ทุกคนมีส่วนร่วมทำให้บ้านหลังนี้เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าวันนี้บางคนอาจไม่ได้เดินร่วมทางกันแล้วก็ตาม แต่ขอให้ทุกคนจงเชื่อว่า ผมสร้างธุรกิจขึ้นมาด้วยใจรักและปรารถนาดีกับทุกคน

อย่างที่ทุกคนทราบตอนนี้ ผมและบรรดาบอสทุกคนถูกจับเข้าคุก จากข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัทเรา “ฉ้อโกงประชาชน” ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ผมไม่เคยมีแม้แต่จะคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับบริษัทของผมได้ เพราะผมเชื่ออย่างสุดหัวใจว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทเรานั้น ดำเนินภายใต้กรอบแห่งศีลธรรม และความถูกต้องตามกฎหมายมาโดยตลอด ตั้งแต่วันแรกที่ผมตั้งบริษัทขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ใบอนุญาตมาตรฐานสินค้า ไปจนถึงการจ่ายภาษีให้แก่รัฐอย่างถูกต้องเสมอมา เรื่องฮอตมาแรง

 

ผมอยากจะบอกว่า วันนี้ผมต้องประสบชะตากรรมในการถูกจับเข้าคุก ทั้งที่ตามกฎหมายผมและบอสทุกคนยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ไม่มีแม้แต่สิทธิในการออกไปต่อสู้คดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วผมไม่โทษใคร และผมพร้อมที่จะชี้แจงความจริงให้กับสังคมได้รับทราบ เมื่อได้รับโอกาสนั้นผมเข้าใจดี การทำธุรกิจย่อมมีทั้งคนรักและคนไม่ชอบเรา คงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ทุกคนรักเราทั้งหมด

ผมเข้าใจการที่วันนี้ผู้คนในสังคม หลังจากได้เห็นข่าวของบริษัท อาจทำให้ท่านรู้สึกไม่ชอบและเกลียดผม รวมทั้งบริษัทของผม ผมอยากกราบขอโทษท่านเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม ผมยังขอยืนยันว่าการดำเนินธุรกิจของผมเคารพในกฎหมายเป็นที่สุด ผมไม่โกรธหรือโทษใครทั้งนั้น วันนี้ผมไม่ได้ต้องการร้องขอให้ใครเห็นใจ แต่ผมขอแค่มอบความเป็นธรรมให้แก่ผม และบอส ๆ ที่เสมือนครอบครัวของผม

ผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินธุรกิจของผมนั้นห่างไกลคำว่า “ฉ้อโกงประชาชน” และ “แชร์ลูกโซ่” เป็นอย่างมาก เราเป็นเพียงบริษัทที่ขายสินค้าปลีก/ส่งสินค้าให้แก่ผู้บริโภคและสมาชิกเท่านั้น ภายใต้ความจริงที่ว่า “ทุกคนที่ซื้อสินค้าย่อมได้สินค้า ทุกคนที่ขายสินค้าย่อมได้กำไร”

วันนี้ถึงแม้ตัวผมจะอยู่ในคุก แต่ผมยังยืนยันว่าผมจะสู้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผมจะสู้เพื่อพิสูจน์ความจริง ผมจะสู้เพื่อพี่น้องครอบครัว The iCon ผมจะสู้เพื่อทุกคนที่ยังขายสินค้า ผมขอสู้เพื่อสมาชิกของผมและพนักงานในบริษัทของผม ผมถือโอกาสนี้บอกกับพี่น้อง The iCon ทุกคนว่า ผมและบอสทุกคนจะไม่หนีไปไหน ผมจะสู้จนลมหายใจสุดท้ายของผม ผมจะทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ทุกคนได้เห็น ขอบคุณครับ”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *