เปิดแชท หัวหน้างาน ไล่ลูกน้องลาออก สุดท้าย เภสัชกรหนุ่ม จบชีวิต
เภสัชกร รพ.ดัง จบชีวิต นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นในวงการแพทย์อีกครั้ง เมื่อเพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับ เภสัชกรหนุ่มของโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองก่อนวัยอันควร เนื่องจากมีความกดดันในเรื่องการทำงาน โดยทางเพจได้โพสต์ข้อความ ว่า “พี่XXX(ชื่อหัวหน้า)ครับ…การที่ผมตัดสินใจต้องจากคนที่รักไปแบบนี้ ขอให้พี่XXXรับรู้ไว้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมาจากตัวผมเองที่โชคร้ายต้องมาเจอหัวหน้างานอย่างพี่ที่ไม่เคยเปิดใจรับฟังอะไรทั้งสิ้นและชอบใช้วิธีบีบคั้นหรือกดดันเพื่อให้ลูกน้องลาออก…เภสัชกรคนหนึ่งใน รพ. ชื่อดังแถวพระราม 9”
เปิดแชท หัวหน้างาน นิดหน่อยไล่ลูกน้องลาออก สุดท้าย เภสัชกรหนุ่ม เลือกจบชีวิต ทนภาวะกดดันในที่ทำงานไม่ไหว เพื่อนโพสต์อาลัยสุดเศร้าเป็นเรื่องที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง หลัง เภสัชกรหนุ่ม โรงพยาบาลพระราม 9 เลือกจบชีวิตตัวเอง เนื่องจากทนแรงกดดันจากหัวหน้างานไม่ไหว
ต่อมา โรงพยาบาลพระราม 9 ออกมาแถลงชี้แจงต่อประเด็นดังกล่าว ตอนหนึ่งระบุว่า ทันทีที่โรงพยาบาลฯ ทราบถึงเหตุการณ์ คณะผู้บริหารและบุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และได้ติดต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตเพื่อแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ เรื่องฮอตมาแรง
พร้อมแนบภาพบทสนทนาระหว่างผู้เสียชีวิตกับหัวหน้างาน โดยหัวหน้าพยายามแนะนำให้ย้ายไปทำงานแผนกอื่น เนื่องจากมองว่าลูกน้องไม่มีความสุขกับการทำงานกับตนเอง และมีประโยคที่แนะนำให้ลาออก ถ้าทำงานด้วยกันไม่ได้ เภสัชกร รพ.ดัง จบชีวิต
อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้ตายได้โพสต์ข้อความก่อนตัดสินใจจบชีวิตไว้ ใจความว่า
“ถึงทุกคนๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ขอบคุณจริงๆ ที่ได้ใช้เวลาด้วยกันนะ ทุกความทรงจำมีค่ามากจริงๆ ขอโทษถ้ายังติดค้างกับใครอยู่ ขอบคุณคนที่เคยช่วยเหลือเรามาตลอด เราทำตัวเองเองอะ เราเห็นแก่ตัวเอง อยากไปแบบมีความสุขตอนนี้ แต่ตอนนี้ แค่คิดว่า ตื่นขึ้นมาต้องไปทำงาน เจอหน้าคน ที่ไม่เคยเห็นค่าเราก็เหนื่อยละ ไลน์ที่ทำงานก็ toxic จะไปต่อก็มีปัญหาหลายอย่าง สุดท้ายเราแค่ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปทำไม มันไม่มีจุดหมายเท่าไหร่”
ทั้งนี้พบว่า ในบทสนทนาของหัวหน้า จะมีการเรียกร้องให้ลูกน้องไปลาออกเกือบทุกข้อความ
ขณะที่ผู้โพสต์ เขียนข้อความ ระบุว่า มายด์บอกเสมอว่า มายด์เครียด แค่ตื่นมารู้ว่าจะได้ไปทำงานหรือพบเจออะไร น้องก็ไม่อยากที่จะใช้ชีวิตอยู่แล้ว เราโทรศัพท์คุยกัน เราพูดคุยกันเรื่องนี้ตลอด เราแนะนำให้น้องลาออก เพราะรู้ถึงสภาพแวดล้อมการทำงานของน้องดี แต่มายด์อยากพิสูจน์ตัวเอง ให้คนอื่นเห็นว่ามายด์เป็นคนเก่ง มายด์เอาชนะในเรื่องนี้ได้ น้องถึงยอมอยู่ต่อ
แต่สุดท้ายมายด์รับกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ไม่ไหว ทุกครั้งที่เห็นคำว่าลาออกจากผู้บังคับบัญชา มันทำให้น้องหมดกำลังใจ ทำให้น้องไม่อยากตื่นที่จะไปพบเจอสิ่งแวดล้อมอะไรแบบนี้ ครั้งนี้ได้เห็นน้องร้องไห้ครั้งสุดท้ายที่หน้าลิฟท์ก่อนที่น้องจะตัดสินใจ เราเสียใจที่ไม่สามารถปลอบน้องได้เหมือนเดิม