“ชูศักดิ์ ศิรินิล” สั่ง 8 ข้อ พศ. ลุยป้องกันคุ้มครองพระพุทธศาสนา หาแนวทางป้องทำผิดกฎหมายในวัด เด็ดขาดพวกแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ เกาะติดบิดเบือนคำสอน คัดกรองคนมีคดีก่อนบวช แจง ใช้ศพสอนธรรมะไม่ได้ บอกดูไม่ยากผิดอาญา-วินัยหรือไม่ พร้อมกำชับสอดส่องยาเสพติดในวัด
ชูศักดิ์ ยัน ใช้ศพสอนธรรมะไม่ได้ – บิดเบือนคำสอน
วันที่ 27 พ.ย. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พร้อมนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.พศ. ร่วมกันแถลงถึงนโยบายป้องกันและคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดย แถลงว่า ได้มีข้อสั่งการ 8 ข้อ ไปยัง พศ. ดังนี้ 1.ขอให้มีมาตรการกำหนดแนวทางป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่น การเสพยาเสพติด การเล่นการพนันในบริเวณวัด 2.ป้องกันการกระทำผิดพระธรรมวินัยของพระสงฆ์ ที่ถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะการเสพเมถุน รวมถึงการใช้สื่อออนไลน์ 3.ติดตามเรื่องการนำคำสอนของพระพุทธศาสนาไปบิดเบือน ไม่ให้ศาสนิกชนหลงผิดในคำสอนของพระพุทธศาสนา หรือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ของพระสงฆ์ 4.ดำเนินการกับผู้ที่แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์เด็ดขาด 5.ออกมาตรการคุ้มครองดูแลพระภิกษุสงฆ์ที่ปฏิบัติดีไม่ให้ถูกกลั่นแกล้งด้วยวิธีการใด
6.กำหนดมาตรการร่วมกับผู้ปกครองคณะสงฆ์ โดยใช้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคัดกรองกับผู้ที่จะอุปสมบท ป้องกันไม่ให้ผู้ต้องคดี ผู้ติดยาเสพติด อาศัยวัดเป็นเครื่องมือเพื่อหลบหลีกความผิด 7.ขอให้ พศ.จัดตั้งและปรับปรุงศูนย์ร้องเรียนเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วและทันท่วงที และ 8.หาแนวทางให้ศาสนิกชนมีส่วนร่วมในการทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา อย่างไรก็ตาม ทั้ง 8 ข้อเป็นการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้รัฐบาลออกมาตรการป้องกันการทำลายพระพุทธศาสนา ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นกลไกสอดส่องดูแล ที่ผ่านมา พศ.อาจอยู่ในที่ตั้ง แต่ต่อไปนี้จะทำงานเชิงรุก คอยดูพฤติกรรมที่คิดว่าไม่ถูกต้อง
กล่าวว่า ส่วนอีกเรื่องที่กำลังดำเนินการอยู่คือ การแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ที่ดินของวัดและสำนักสงฆ์ที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เช่น ที่ดินที่ทับซ้อนกับที่ดินของรัฐจนเกิดเป็นปัญหาข้อพิพาท เมื่อถามถึงแนวทางการปรับปรุง กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในนโยบายอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่ได้ทำงานได้ง่าย เพราะ พศ.เป็นระบบราชการ ดังนั้น ต้องคำนึงถึงระบบภาพรวม
แจง ใช้ศพสอนธรรมะไม่ได้ บอกดูไม่ยากผิดอาญา-วินัยหรือไม่
นอกจากนี้ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการร้องตรวจสอบสำนักสงฆ์ฝึกเรียนหูทิพย์-ตาทิพย์โดยใช้ศพ โดยหลักพระพุทธศาสนาสามารถทำได้หรือไม่ว่า ได้มอบให้ พศ. ไปหารือกับสำนักสงฆ์ต่างๆ แต่ส่วนตัวคิดว่าทำไม่ได้
เมื่อถามว่า ถ้าประเมินภาพรวม 2 สำนักมี 71 ศพ และมีความเชื่อมโยงกัน ทาง พศ. จะดำเนินการอย่างไรกล่าวว่า ทาง พศ. ต้องไปดำเนินการตรวจสอบดูว่า ทำได้หรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าทำไม่ได้ และเมื่อทำไม่ได้จะต้องมีมาตรการอย่างไร
เมื่อถามว่า กรณี 71 ศพ จะมีมาตรการป้องกันอย่างไร กล่าวว่า ได้ให้ไปดูว่า การกระทำใดๆ ที่นำไปสู่การบ่อนทำลาย ดัดแปลงคำสอนพระพุทธศาสนา ทำให้พุทธศาสนิกชนเข้าใจผิดในหลักธรรมคำสอน ก็ให้เข้าไปดู และมีมาตรการห้ามปราม เพื่อไม่ให้มีการกระทำแบบนี้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับว่า การกระทำลักษณะเช่นนี้มีหลายแห่ง ซึ่งไม่ใช่หลักธรรมคำสอนของศาสนาพุทธ แต่มีการนำไปบิดเบือน
เมื่อถามว่า เบื้องต้นมีความผิด และสามารถเอาผิดได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ได้บอก ผอ. พศ.ไปแล้วว่า ถ้าผิดอาญาก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ แต่ถ้าเป็นเรื่องของวินัยต้องแจ้งคณะสงฆ์ ซึ่งการที่จะดูว่ามีผิดทางความอาญาหรือวินัยนั้นดูไม่ยาก เรื่องฮอตมาแรง
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา พศ. ดำเนินการเชิงรับมาตลอด จะทำอย่างไรเพื่อทำมาตรการเชิงรุกตามนโยบาย กล่าวว่า ตนได้คุยกับผู้อำนวยการ พศ.แล้วว่าเรามี พศ. อยู่ทุกจังหวัด เราไม่ได้ทำแค่ว่าไปร่วมกิจกรรมทางศาสนา แต่เราจะต้องเข้าไปดูแล ซึ่งตนก็มีทีมงานที่ติดตามและรายงานตนมาตลอด ทั้งนี้ตนไปไล่ดูนโยบายของ พศ. เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในนโยบายของรัฐบาล เพราะก่อนที่ตนจะมารับหน้าที่ก็เห็นปัญหามาตลอด จึงได้หารือกับทางกับ พศ. ว่าเราจะดำเนินการ เพื่อทำให้พระพุทธศาสนาของเราเป็นหลักให้ได้ ไม่มีพฤติกรรมบ่อนทำลายในทุกรูปแบบ
เมื่อถามว่า ในการบวชพระใหม่จะมีมาตรการตรวจสอบอย่างไร กล่าวว่า ตรงนี้เป็นหนึ่งในมาตรการที่เรากำหนดว่า ต่อไปนี้สำนักสงฆ์จะต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้คนใช้ผ้าเหลืองมาเป็นเครื่องมือ ซึ่งการบวชพระใหม่ไม่ได้บวชกันได้ง่ายๆ เพราะมีกฎ กติกาอยู่
เมื่อถามว่า ปัจจุบันประชาชนให้ความเชื่อถือศรัทธา อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม มากกว่าพระสงฆ์กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปสรุปอย่างนั้นเลย วัดยังเป็นสถานที่พึ่งพาเป็นสถาบันที่เป็นหลักของพุทธศาสนิกชน เพียงแต่ตอนนี้มีสิ่งอันไม่พึงประสงค์หลายประการ
เมื่อถามว่า ขณะนี้ขบวนการยาเสพติดเริ่มเข้าไปในวัด เราจะมีมาตรการเด็ดขาดในการป้องกันอย่างไร ว่า เราก็ต้องสอดส่องดูแลไม่ให้วัดเป็นแหล่งเสพยาเสพติด ทั้งหลายทั้งปวง หรือใช้วัดเป็นแหล่งค้ายาเสพติด ซึ่งตนได้กำชับไปแล้ว
เมื่อถามว่า จะต้องมีการตรวจปัสสาวะพระสงฆ์ตามวัดหรือไม่ กล่าวว่า มีอยู่แล้ว หากมีสิ่งเหล่านี้ก็ต้องสึกและความจริงก็บวชไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแต่เราละเลยกันมานานไม่ได้ดูแลกันอย่างจริงจัง